หลังจากที่ซัมซุงประสบความปัญหาอย่างหนักกับการเปิดตัว Galaxy Note 7 เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของแบตเตอรี จนต้องระงับการวางจำหน่ายไปทั่วเลือกเมื่อปี 2016 ทำให้ที่ผ่านมา Galaxy Note 5 ยังทำตลาดอยู่และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีการเปิดตัว Galaxy Note 8 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่ดูจะล้ำและร้อนแรงมากที่สุดในฟากฝั่งของ Android
สำหรับ Samsung Galaxy Note ทุกรุ่นที่ผ่านมามีจุดเด่นที่ทิ้งห่างคู่แข่งอื่น ๆ อยู่หลายช่วงตัวคือ การที่มันเป็นสมาร์ทโฟนที่มีคุณสมบัติในการจดโน๊ตต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายโดยปากกาที่มีชื่อเรียกทางการตลาดว่า S Pen
ที่มาของ Galaxy Note FE
อย่างไรก็ดีแม้ว่า Note 7 จะมีการระงับการวางจำหน่ายไปรวมถึงมีการเปิดตัว Note 8 ไปแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าซัมซุงก็ยังไม่ละความพยายามที่จะนำวัสดุบางส่วนที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นวัสดุบางส่วนที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาเลยของ Note 7 รวมถึงแบตเตอรีใหม่มาใช้กับวัสดุที่ผลิตขึ้นมาใหม่สำหรับ Galaxy Note FE (Fan Edition) ซึ่งให้เหตุผลว่าวัสดุดังกล่าวเป็นวัสดุ Recycle และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Note FE มีอะไรใหม่ที่แตกต่างจาก Note 7 ?
ในส่วนของหน้าตานั้นเรียกได้ว่าถอดแบบกันมาเลยก็ว่าได้เพราะไม่ว่าจะเป็นจุดเด่นจอโค้งทั้งสองด้านนั้นก็เหมือนกันเป๊ะ แต่ที่อัพเกรดขึ้นมาก็จะเป็นกระจกของหน้าจอที่เป็น Gorilla Glass 5 ส่วนคุณสมบัติอื่น ๆ ก็จะค่อนข้างเหมือนเดิม คือ หน้าจอ Super AMOLED ขนาดความกว้าง 5.7 นิ้ว และความละเอียดของหน้าจอระดับ QHD (1440×2560 พิกเซล) รองรับ HDR อัตราส่วนการแสดงผล 16:9 ขนาดของตัวเครื่องโดยรวม
73.9 x 153.5 x 7.9 มิลลิเมตร เป็นต้น
สเปค (Specification)
– ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat มาพร้อม Touchwiz UI
– กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
– หน้าจอแสดงผลแลล Super-Amoled ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด Quad-HD
– ชิปเซ็ต Samsung Exynos 8890 Octa-core 2.3GHz
– ชิปกราฟิก Mali-T880MP12 GPU
– หน่วยความจำแรม (RAM) 4GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง (รอม) 64 GB
– รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกด้วย Micro-SD สูงสุด 256GB
– แบตเตอรี่ 3,200 mAh
– รองรับ 2 ซิม
– รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ
– รองรับระบบสแกนม่านตา
– มีปากกา S Pen รุ่นใหม่รองรับแรงกดได้ถึง 4096 ระดับ (รุ่นเดียวกันกับที่ใช้ใน Note 8) ขนาดหัวปากกาขนาดเล็กเพียง 0.7 มิลลิเมตรเท่านั้น
– กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ทั้งในส่วนของตัวเครื่องและปากกา S Pen
– ขนาดตัวเครื่อง 73.9 x 153.5 x 7.9 มม.
– น้ำหนักโดยรวมของตัวเครื่อง 169 กรัม
– มีให้เลือก 2 สี Black Onyx และ Blue Coral
รีวิวจากเว็บไซต์ชื่อดังในต่างประเทศ
ราคาและการวางจำหน่าย
สำหรับท่านที่สนใจสมาร์ทโฟนตระกูลโน๊ตก็คงจะมีรุ่นเด่น ๆ อยู่ได้แก่ Galaxy Note 5 (ค่อนข้างเก่าแต่ยังทำงานได้ดีมากกับเทคโนโลยีปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันราคาลงมากเพราะทำโปรโมชันกับ Operator ทั้ง 3 เจ้า อย่าง AIS, DTAC และ True แต่อาจจะหาตัวเครื่องยากหน่อยแต่ราคาตอนนี้ก็ถูกลงมากถ้าติดสัญญาก็ไม่เกินหมื่นบาท) ถัดมาก็เป็น Note FE ที่เรียกได้ว่าเป็นรองเพียง Note 8 เท่านั้น สนนราคาค่าตัวของ Note FE นั้นอยู่ที่ 20,900 ราคาเครื่องเปล่าอยู่ที่ 33,900 บาทเลยทีเดียว
โดยทางซัมซุงมีกำหนดการวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป ที่ Samsung Brand Shop และเว็บไซต์ S-eStore (งานนี้ไม่แน่ใจว่าบังเอิญหรือตั้งใจนะครับเพราะเป็นวันเดียวกับการวางจำหน่าย iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เช่นกัน)
อ้างอิง : PhoneArena, Samsung