วันนี้เราจะมารีวิวหม้อทอดไร้น้ำมันรุ่นยอดนิยมอย่าง PHILIPS รุ่น HD9200 (1400 วัตต์, 4.1 ลิตร) ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าขายดีในหมวดขอหม้อทอดไร้น้ำมันบน Shopee และ Lazada ซึ่งด้วยแบรนด์ของ PHILIPS ก็ทำให้แบรนด์นี้เป็นที่นิยมมีราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับช่วงนี้เป็นที่ทราบกันนะครับว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส COVID-19 โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลถือว่าหนักหน่วง และหลายคนต้องอยู่กับบ้าน กักตัว ทำอาหารทานเอง โดยเฉพาะช่วงนี้ใครที่กำลังหนีโควิดไม่อยากออกไปไหน ทำอาหารทานเองที่บ้านเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดการติดต่อและการสัมผัส
ก่อนอื่นเราไปดูตัวเครื่องกันก่อนดีกว่านะครับ จากรีวิวนี้เราแกะออกจากกล่องแล้ว โดยสั่งซื้อจาก Shopee ซึ่งการจัดส่งช่วงนี้ก็ถือว่ารวดเร็วทันใจประมาณ 2 วัน ก็มีขนส่งเอาของมาส่งถึงหน้าบ้าน หน้าตาของตัวรุ่นนี้ออกแบบสีดำ ดูหรูหา และดีไซน์มีความโค้งกำลังดี ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม เหมาะกับวางไว้ในห้องครัวมาก ๆ
เริ่มด้วยเมนูง่าย ๆ อย่างเฟรนซ์ฟรายด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน
ขั้นแรกก็ให้เราไปหาซื้อเฟรนซ์ฟรายแช่แข็งมาก่อนนะครับ จากตัวอย่างผู้เขียนซื้อขนาด 500 กรัม ราคา 79 บาท ซื้อที่ Lotus Express ซึ่งดูจากขนาดหากทานคนเดียวก็น่าจะแบ่งทานได้ประมาณ 2 ครั้ง หรือหากสองคนทำรอบเดียว 500 กรัมเลยก็น่าจะพอดีครับ หรือหากใครที่มีตู้แช่แข็งหรือช่องฟรีซขนาดใหญ่ก็อาจจะซื้อมาเผื่อไว้ด้วยถุงขนาดใหญ่ก็จะคุ้มกว่านะครับ แต่ผู้เขียนไม่มีที่เก็บเยอะก็ซื้อมาเท่าที่สะดวกจะทานก่อนครับ
เริ่มแรกก็เปิดหม้อทอดไร้น้ำมันของเราแล้วเทเฟรนย์ฟรายแช่แข้งลงไปได้เลยนะครับ เกลี่ยซักหน่อย ไม่ต้องล้างน้ำ จากนั้นก็ดันเครื่องเข้าไปให้สนพิท แล้วทำการตั้งเวลา และองศา โดยหมุนด้านหน้าตัวเครื่องได้เลย จากตัวอย่างรีวิวนี้ เราตั้งอุณหภูมิที่ 180 องศา เป็นเวลา 20 นาที ครับ ผลที่ได้ก็จะสุดประมาณนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะต้องลองทดสอบด้วยตนเองหลาย ๆ ครั้งก็น่าจะได้สูตรที่ลงตัวและถูกใจ (เทคนิค คือ การทดมันฝรั่ง PHILIPS แนะนำว่าห้ามทอดด้วยอุณหภูมิสูงเกินกว่า 180 องศาเซลเซียส เพื่อลดการเกิดสารอะคริลาไมด์ และมั่นฝรั่งควรเป็นสีเหลืองทอง หากเป็นสีดำหรือน้ำตาลไหม้ให้คีบออก ห้ามนำมารับประทาน)
เรื่องรสชาติของอาหารที่ปรุงด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน
เนื่องจากผู้เขียนพึ่งได้ลองทำเมนูเดียว แต่ส่วนตัวคิดว่าเมนูต่าง ๆ ที่เป็นปิ้งย่าง อบ น่าจะใช้เจ้าเครื่องนี้ทำแทนได้เกือบทั้งหมด แต่ส่วนของรสชาติจากกรณีของมันฝรั่งทอดหรือเฟรนซ์ฟรายด์นั้น ถ้าเทียบกับทอดน้ำมันของ McDonal นั้นถือว่ายังสู้แบบนั้นไม่ได้ ผู้เขียนให้ซัก 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับทอดน้ำมันเวลาไปทานที่ร้านแมคโดนัลด์ แต่ก็แลกมาด้วยสุขภาพที่ดีขึ้น ลดการบริโภคน้ำมัน และทำทานเองที่บ้านได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ดูหนังดึก ๆ เกิดหิวขึ้นมาก็แค่เปิดช่องฟรีซหยิบมันฝั่งใส่เครื่อง รอ 20 นาทีก็ได้มันฝรั่งร้อน ๆ แบบไร้น้ำมันพร้อมเสริ์ฟแล้ว
จุดเด่นของหม้อทอดไร้นำมัน PHILIPS รุ่น HD9200/91
- สำหรับรุ่นนี้ถือว่าได้แบรนด์ PHILIPS ซึ่งเป็นต้นตำรับของหม้อทอดไร้น้ำมัน ในราคาที่สบายกระเป๋า หาซื้อง่าย เป็นรุ่นยอดนิยม ถ้ารอจังหวะดี ๆ ใน Shopee, Lazada เอามาเล่นโปรโมชัน Flash Sales บ่อย ๆ
- การออกแบบตัวเครื่องสวยงาม ทันสมัย
- เครื่องดูแข็งแรงทนทาน วัสดุเคลือบเทปลอนทั้งหม้อและตะแกรง
- แบรนด์ PHILIPS ถือเป็นผู้นำในตลาดหม้อทอดไร้น้ำมัน
- เครื่องทำความร้อนได้ทั่วถึงด้วยการออกแบบที่เป็นลักษณะใบพัดใต้เครื่อง ทำให้อาการสุกได้ทั่วถึงไม่จำเป็นต้องเอาอาหารกลับมาพลิกระหว่างที่เครื่องทำงาน
- หากเราถอดถาดออกระหว่างเครื่องทำงานเครื่องจะหยุดอัตโนมัติ เมื่อใส่ถาดอาหารกลับเข้าไปเครื่องก็จะทำงานต่อทันที
- ขนาดกำลังดี เหมาะสำหรับคนที่อยู่อาศัย 1-2 คน
- มาพร้อมเทคโนโลยี Philips Airfryer ลิขสิทธิ์เฉพาะของฟิลิปส์
จุดที่ต้องพิจารณา
- ต้องลองใช้ระยะยาวต่อไปก่อนนะครับว่าจะเป็นอย่างไร แต่ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจในแบรนด์นี้เลยยอมจ่ายในราคาที่แพงกว่าเมื่อเทียบกับสเปคเดียวกันในยี่ห้ออื่น ๆ
- การวางตัวเครื่องต้องหาจุดที่อากาศถ่ายเท เนื่องจากว่าด้านหลังของตัวเครื่องจะมีช่องลมที่ระบายความร้อนออกมา ซึ่งเป็นปกติของหม้อทอดไร้น้ำมัน และอาจจะมีควันออกมาได้ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหาร
- ไม่มีตัวเลขดิจิทัลบอกอุณหภูมิและเวลา ดังนั้นหากใครที่ต้องการความสะดวกสบายที่มากยิ่งขึ้น ไม่อยากใช้มือหมุนที่ตัวเครื่อง ก็อาจจะเลือกรุ่นที่แสดงหน้าจอแบบดิจิทัลได้ ก็มีให้เลือกอีกหลายรุ่นไปถึงหลักหมื่นเลย แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงมากขึ้นด้วยนั่นเอง
เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับรีวิวหม้อทอดไร้น้ำมันของเรา ตอนนี้สถานการณ์โควิดในประเทศไทยยังระบาด การทำงานที่บ้านหรือ Work From Home ก็อาจจะต้องดำเนินต่อเนื่องไปอีกพักใหญ่ และเรื่องอาหารการกินก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องใส่ใจ การทำอาหารทานเองบ้าง ก็ลดการติดต่อได้ด้วยอีกทางหนึ่ง คราวหน้าเราจะมารีวิวเรื่องของเมนูอาหารต่าง ๆ ที่ผู้เขียนจะลองทำทานในช่วงของการทำงานอยู่ที่บ้าน อย่างไรคอยติดตามกันต่อไป รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ขอให้ปลอดภัยจากโควิดครับ