สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน สำหรับคอลัมน์ Editor’s Talk วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับแว่นตาอัจฉริยะ “Moverio BT-300” จาก EPSON แว่นตาที่ใช้งานได้จริงและไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความฝันหรือเห็นในหนังอีกต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายบริษัทที่พยายามพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะเพื่อตอบโจทย์การทำงานในด้านต่าง ๆ ของเราให้มีความหลากหลายและทยายขีดจำกัดบางอย่างของอุปกรณ์ในปัจจุบันออกมา อย่างที่ผ่านมาที่ถูกพูดถึงกันมากก็จะเป็น Google Glasses ซึ่งตอนนี้ได้ยกเลิกการพัฒนาสำหรับตลาดกลุ่มลูกค้าทั่วไปแล้ว ส่วนแบรนด์อื่น ๆ ในตอนนี้ก็มีทั้งที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและออกวางจำหน่ายแล้ว ซึ่งก็จะตอบโจทย์การใช้งานที่มีทั้งความเหมือนและจุดเด่นที่แตกต่างกัน
ทำความรู้จักกับ EPSON ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์เท่านั้น
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทาง DIGIT DAY ได้เข้าร่วมงานเพื่อเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ของ EPSON จากที่ได้รับการติดต่อเข้ามาเพื่อเชิญเข้าร่วมงานการเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะก็ค่อนข้างแปลกใจเพราะปกติจะรู้จะ EPSON ในไลน์ผลิตภัณท์ที่เกี่ยวกับการพิมพ์มากกว่า ซึ่งเราก็เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายท่านก็น่าจะมีความคิดแบบเดียวกัน ดังนั้นเรามาทำความรู้จะ EPSON ในมุมที่แตกต่างมากขึ้นกันดีกว่าครับ
นวัตกรรมของทาง EPSON จะประกอบไปด้วยจุดเด่น 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก
1) นวัตกรรมด้านการพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Innovation) มีการพัฒนามาอย่างยาวนานและมียอดจำหน่ายแล้วกว่า 20 ล้านเครื่อง ซึ่งนอกจากการพิมพ์บนกระดาษแล้วยังมีการพัฒนาต่อยอดสู่การพิมพ์รูปแบบอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เช่น การพิมพ์บนผ้า ผลิตภัณฑ์เซรามิก สติ๊กเปอร์ บาร์โค๊ต ฯลฯ
2) นวัตกรรมด้านการแสดงผล (Visual Innovation) ผลิตภัณฑ์เด่นในกลุ่ม Visual ของ EPSON คือ จอ Projector ที่เรามักจะคุ้นชินเพราะถือว่า EPSON คือผู้นำในตลาดโปรเจคเตอร์มาตั้งแต่ปี 2001 จนถึงปัจจุบันนะครับ
3) นวัตกรรมด้านการสวมใส่ (Wearables Innovation) สำหรับอุปกรณ์สวมใส่นี้จะมีตั้งแต่นาฬิกาภายใต้แบรนด์ RUNSENSE และ ORIENT
3) นวัตกรรมด้านหุ่นยนต์ (Robotics Innovation) ด้านหุ่นยนต์จะเป็นหุ่นที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดย EPSON นั้นคือการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ จากโรงงานของตนเอง ทำให้การควบคุมมาตรฐานการผลิตสามารถทำได้ดี ซึ่งจะได้เปรียบแบรนด์อื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่มักจะมีการผลิตชิ้นส่วนจากโรงงานต่าง ๆ แล้วนำมาประกอบกันเป็นผลิตภัณฑ์มากกว่า
ทำความรู้จักกับ EPSON Moverio
EPSON Moverio คือ แว่นตาอัจฉริยะที่อยู่ในส่วนของการใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) คือ การเชื่อมโลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน เช่น หากเรามองภาพถ่ายที่มีการใช้เทคโนโลยี AR ผ่านแว่นตาอัจฉริยะ เราก็อาจจะเห็นภาพลักษณะ 3 มิติขึ้นมาได้ เป็นต้น โดยผลิตภัณฑ์ด้านนี้ของ EPSON เค้าที่ีมีหลายรุ่นเพื่อตอบโจทย์การทำงานในด้านต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไปครับ
EPSON Moverio มีการเปิดตัวครั้งแรกในชื่อรุ่น BT-100 เมื่อปี 2012 จากนั้นอีก 2 ปีก็ได้มีการเปิดตัว BT-200 ในปี 2014 และปี 2016 ก็มีการเปิดตัวรุ่น BT-2000 (เจาะกลุ่มอุตสาหกรรม) มาจนกลางปี 2016 ก็เปิดตัว BT-300 โดยรุ่นล่าสุดนั้นจะเป็น BT-2200 (เจาะกลุ่มอุตสาหกรรม) และ BT-350 สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป (Commercial)
เปิดไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่กับแว่นตาอัจฉริยะ Moverio BT-300 Smart Glasses
EPSON Moverio BT-300 เป็นแว่นตาอัจฉริยะที่มีขนาดเล็กและเบาเป็นพิเศษ ซึ่งจะตอบโจทย์การทำงานที่ค่อนข้างหลากหลาย ด้วยความที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android นั้นจะช่วยให้เราสามารถติดตั้ง Application ต่าง ๆ ได้เหมือนกับสมาร์ทโฟนเลยละครับ โดยสิ่งที่น่าสนใจก็คือเราสามารถชมสิ่งต่าง ๆ ได้ผ่านแว่นตาอัจฉริยะซึ่งก็จะได้อารมณ์ประมาณว่าเรามองวัตถุต่าง ๆ บนโลกจริงแต่ว่าจะเห็นภาพที่มีความโปร่งแสงซึ่งโชว์ข้อมูลต่าง ๆ ไปในเวลาเดียวกัน (การแสดงภาพนั้นจะแสดงบนแว่นทั้งสองข้างทำให้เราได้ความรู้สึกที่เสมือนจริงมากยิ่งขึ้น) ซึ่งเราสามารถสั่งงานหน้าจอที่เราเห็นได้โดยใช้ Track pad ที่มาพร้อมกับชุดอุปกรณ์ได้นั่นเอง สำหรับการนำไปประยุกต์ใช้ก็สามารถทำได้หลายอย่าง เช่น ใช้เชื่อมต่อกับโดรน (Drone) เพื่อควบคุมและรับชมภาพต่าง ๆ ที่มีการลิงค์ข้อมูลแบบ Real Time เช่น ลิงค์กับ Drone บนท้องฟ้า หรือการชมภาพยนต์หรือเล่นเกมส์ ทำงาน ที่มีภาพเคลื่อนไหวได้ เป็นต้น โดยในช่วงท้ายของบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับการนำไปใช้ร่วมกับโดรนกันครับ
สเปคของ Moverio BT-300
– กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
– หน้าจอคู่ Si-OLED (รองรับการแสดงผลแบบแบบสามมิติ)
– หน่วยความจำภายใน 16 GB
– แว่นตาความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล
– Wireless LAN
– Bluetooth
– USB C/N
– SD Card Slot
– Battery อยู่ได้นาน 5-6 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
– Touchpad แบบ Multi touch
– ระบบปฏิบัติการ Android 5.1
– ซีพียู Intel Atom x5-8500
ทดสอบ Moverio BT-300 กับการทำงานร่วมกับ Drone เพื่อการถ่ายภาพทางอากาศ
ทาง DIGIT DAY ได้มีโอกาสทดลองใช้โดรนร่วมกับแว่นตา Moverio BT-300 จึงได้เก็บบรรยากาศและข้อมูลมาฝากกันครับ
หลังจากที่ฟังบรรยายจากคณะผู้บริหารของ EPSON และแขกรับเชิญผู้คร่่ำหวอดในวงการถ่ายภาพและการใช้งานโดรนแล้วก็มีการสาธิตการขับเคลื่อนโดรนภายในห้องจัดงานก่อนเชิญบรรดาสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบระบบกันครับ
เริ่มทดสอบภาคสนามจริง
สำหรับสถานที่ที่ทาง EPSON เลือกเป็น Location ให้เราได้ทำการทดสอบการใช้โดรนร่วมกับแว่นตาอัจฉริยะ Moverio BT-300 คือที่ ล้ง 1919 ซึ่งนับว่าเป็นสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในกรุงเทพมหานครที่ให้กลิ่นอายของยุคเก่าแก่ของชุมชนชาวจีนที่มากตั้งรกรากในไทยได้เป็นอย่างดี
เตรียมความพร้อมก่อนบิน โดยโดรนเค้าจะมีการใส่พวก Battery และ Memory Card รวมถึงเช็คความเรียบร้อยของอุปกรณ์ก่อนนะครับ
วิทยากรผู้เชี่ยวชาญเริ่มสาธิตให้ดูก่อน
ได้เวลาที่สื่อมวลชนเริ่มทดสอบด้วยกันครับ ดูจากการสวมใส่แว่นตาจะดูเท่ไม่เบาเลยครับ
Controller ที่เชื่อมต่อกับแว่นตาอัจฉริยะ ซึ่งภาพที่คนสวมแว่นตาจะเห็นจะเป็นภาพถ่ายทางอากาศแบบ Real Time ซึ่งจะมีหน้าจอควบคุมต่าง ๆ แทรกอยู่แบบเป็นเลเยอร์โปร่งแสงที่เห็นได้ชัดเจนเหมือนที่เราดูในหนัง Sci-Fi นะครับ โดยตัว Controller สามารถใช้ได้ทั้ง Track Pad หรือจะใช้ตัวหมุนที่เป็นเหมือน Joy Stick ก็ได้เช่นกันครับ เช่น เราสามารถให้โดรนหันกล้องขึ้น-ลง กดถ่ายภาพ หรือบันทึกวีดีโอ หรือสั่งให้บินไปตามจุดต่าง ๆ ได้เป็นต้น
เริ่มนำโดนขึ้นบินโดยควบคุมการทำงานจากแว่นตาอัจฉริยะ
ภาพโดรนขณะบินอยู่บนท้องฟ้าระยะความสูงประมาณ 30 เมตร (มีข้อมูลต่าง ๆ โชว์ซึ่งเราสามารถมองเห็นผ่านแว่นตาได้เลย)
บรรยากาศบริเวณ ล้ง 1919 ยามเย็นน่ามานั่งชิลหรือถ่ายรูปเล่นมากเลยครับ
วีดีโอบรรยากาศงานเปิดตัวและการทดสอบโดรนกับ BT-300
(Coming Soon)
บทสรุป
สำหรับคนที่กำลังมองแว่นตาอัจฉริยะเพือตอบโจทย์การทำงานร่วมกับโดรนนั้น EPSON Moverio BT-300 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในท้องตลาด ณ ตอนนี้ เนื่องจากว่าการดีไซน์อุปกรณ์นั้นมีความสวยงามและเบา อีกทั้งมีขนาดเล็ก ดูทันสมัย มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android การชาร์จ 1 ครั้งสามารถใช้ได้นานประมาณ 5-6 ชั่วโมง แต่สิ่งทีี่น่าสังเกตคือเรื่องของสายที่เสียบระหว่างตัว Controller กับแว่นตานี้จะต้องเสียบไว้ตลอดเวลา ซึ่งหากว่าไม่ซีเรียสตรงนี้ก็นับว่าน่าสนใจมากครับ สำหรับการทดสอบนั้นมีสัญญาณจากโดรนขาดหายไปบ้างเนื่องจากว่ามีการนำโดรนบินขึ้นพร้อมกันมากกว่า 6 ลำ (ตามข้อแนะนำไม่ควรเกิน 3 ลำเพราะจะเกิดสัญญาณที่รบกวนกัน) แต่จากการทดสอบพบว่าเมื่อนำโดรนลงมาเหลือเพียงไม่กี่ลำ สัญญาณภาพก็จะมาปกติที่ตรงจุดนี้จะเป็นจุดที่คนใช้โดรนอาจจะต้องระวังนิดหนึ่งครับ สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ EPSON นะครับ สนนราคานั้นจะอยู่ประมาณ 29,900 ครับ