เมื่อก่อนหลายคนที่เคยได้รับใบสั่งอาจจะเพิกเฉยไม่ไปชำระหรือแกล้งทำเป็นลืม อาจจะไม่ส่งผลกระทบเท่าไหร่ แต่จากนี้ไปนี้ต้องบอกว่าอาจจะต้องสำรวจใบสั่งค่าปรับที่เกิดขึ้นของตนเองแล้วว่ามีหรือไม่ ? สถานะเป็นอย่างไร ? ค้างชำระหรือไม่ ? พร้อมกันนี้ยังมีการออกกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้การจัดเก็บค่าปรับนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้หากพบข้อมูลใบสั่งในระบบ แนะนำคุณผู้อ่านควรทำการชำระให้เรียบร้อยนะครับ เพราะปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป กรมการขนส่งทางบกจะมีมาตรการในการต่อทะเบียนรถ โดยหากตรวจพบว่ามีการค้างชำระค่าปรับจราจรก็จะออกป้ายวงกลมชั่วคราวให้ใช้แทนได้เพียง 30 วันเท่านั้น ซึ่งเมื่อเสียค่าปรับแล้วจะเอามาเปลี่ยนเป็นวงกลมจริงได้
สำหรับการชำระค่าปรับใบสั่งนั้นสามารถชำระได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่ ที่สถานีตำรวงทุกแห่งทั่วประเทศ ธนาคารกรุงไทย คู้ ATM กรุงไทย แอปพลิเคชัน KrungThai NEXT ตู้บุญเติม CenPay ไปรษณีย์ไทยทุกสาขา โดยมีกำหนดชำระภายใน 30 วันนับจากได้รับแจ้งจากนายทะเบียน
โดยประชาชนสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดเตรียมไว้ให้ โดยสามารถลงทะเบียนด้วยทะเบียนรถยนต์หรือว่าใบขับขี่พร้อมข้อมูลบัตรประชาชนได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง โดยวันนี้เราจะมีรีวิวให้คุณผู้อ่านได้ดูขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อขอ Username & Password เพื่อเข้าสู่ระบบกัน
สำหรับเว็บไซต์ที่ว่านี้สามารถเข้าไปได้ที่ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ โดยระบบนี้มีชื่อเต็ม ๆ ว่า “ระบบใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน” หรือเรียกชื่อย่อว่า e-Ticket
วิธีลงทะเบียนเพื่อตรวจสอบใบสั่งจราจรออนไลน์มีขั้นตอนดังนี้
1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ จากนั้นกดปุ่ม “ลงทะเบียนใช้งาน”
2. กรอกข้อมูลส่วนตัว โดยต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องตรงตามข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน โดย Laser ID สามารถดูได้จากด้านหลังบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วให้กดปุ่ม “ถัดไป”
3. เลือกรูปแบบข้อมูลที่จะใช้การลงทะเบียน โดยจะมีให้เลือก 2 แบบคือ การใช้ ข้อมูลรถที่ครอบครอง หรือ ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ จากนั้นกดปุ่ม “ถัดไป”
4. ทำการกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน (จากตัวอย่างจะเป็นการยืนยันตัวตนเพื่อขอ Username & Password โดยใช้ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่) จากนั้น กดปุ่ม “ถัดไป”
5. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่กรอกไปอีกครั้ง จากนั้นระบุอีเมลที่จะใช้ลงทะเบียน (ให้กรอกอีเมลของตัวเองจริง ๆ เพราะระบบจะต้องมีการส่งรหัสยืนยันอีเมลอีกครั้ง โดยจะส่งไปที่อีเมลที่เรากรอกไปนี้) จากนั้นกดปุ่ม “ถัดไป”
6. ระบบจะแจ้งเตือนว่ามีการส่งรปัสยืนยันไปที่อีเมลแล้ว ให้คุณผู้อ่านเข้าไปตรวจสอบอีเมล (ถ้าไม่ได้รับให้รอซักครู่หรือให้ตรวจสอบที่ ถังอีเมลขยะหรือ Junk Mail)
ตัวอย่างอีเมลที่ส่งออกมาจากระบบ
7. ทำการตั้งรหัสผ่านที่ต้องการ จากนั้นกดปุ่ม “ลงทะเบียน”
8. อ่านเงื่อนไขต่าง ๆ ในการใช้งาน จากนั้นติ๊กเลือกยอมรับข้อความข้างต้นและกดปุ่ม “ยืนยัน”
9. การลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์จะขึ้นข้อความดังรูป
10. กลับมาที่หน้าแรกอีกครั้ง ให้ทำการเข้าสู่ระบบด้วย หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และ รหัสผ่านที่ตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้เพื่อตรวจสอบข้อมูลใบสั่งของตนเองได้ทันที
ตัวอย่างการตรวจสอบข้อมูลในระบบ
หมายเหตุ : ขั้นตอนต่าง ๆ เป็นการรีวิว ณ วันที่ 26 กันยายน 2562 ทั้งนี้ในอนาคตระบบอาจจะมีการอัพเดตเปลี่ยนแปลงขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ให้บริการทั้งนี้คุณผู้อ่านต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลด้วยตนเองอีกครั้ง