ในปัจจุบัน การโจมตีผ่านทางโทรศัพท์หรือ Call Center ที่เรามักจะได้ยินบ่อย ๆ ว่า คนนั้นคนนี้ถูกแก๊ง Call Center หลอกโอนเงิน กลายเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยเป็นอย่างมาก มิจฉาชีพเหล่านี้มักจะใช้วิธีการหลอกลวงที่ซับซ้อนเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคลหรือเงินจากเหยื่อ เพื่อป้องกันตัวเองและคนใกล้ตัว นี่คือ 10 เทคนิคที่จำเป็นต้องรู้เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อมิจฉาชีพ Call Center ที่จะช่วยให้คุณรอดพ้นจากภัยใกล้ตัวเหล่านี้ได้
1. อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวทางโทรศัพท์
มิจฉาชีพมักจะใช้วิธีการขอข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน เลขบัตรเครดิต หรือข้อมูลทางการเงินอื่นๆ เพื่อทำการโจมตี อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวทางโทรศัพท์โดยเด็ดขาด หากคุณไม่แน่ใจว่าผู้ที่โทรมาคือใคร หรือแม้กระทั่งปัจจุบันอาจจะมีการปลอมแปลงเสียง หรือลักษณะการพูดของเหยื่อได้อีกด้วย ดังนั้นให้ทำการ Cross Check ให้ดีเพื่อให้มั่นใจว่าไม่ใช้มิจฉาชีพ
2. ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์
ก่อนที่คุณจะรับสายหรือให้ข้อมูลใด ๆ ควรตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามา หากเบอร์นั้นเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย หรือเป็นเบอร์ที่มีการรายงานว่าเป็นเบอร์มิจฉาชีพ คุณควรหลีกเลี่ยงการรับสาย เช่น การติดตั้งแอปฯ Whoscall ที่ช่วยดูว่าเบอร์ใครโทรมาก็ช่วยได้มากทีเดียว
3. อย่าตกใจหรือรีบตัดสินใจ
มิจฉาชีพมักจะใช้วิธีการสร้างความตกใจหรือเร่งด่วนเพื่อให้เหยื่อตัดสินใจผิดพลาด เช่น การบอกว่าคุณมีหนี้สินที่ต้องชำระทันที หรือมีปัญหาทางกฎหมาย คุณควรใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลและไม่รีบตัดสินใจ
4. ใช้การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น
การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (Two-Factor Authentication) เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันข้อมูลส่วนตัว เช่น การใช้รหัส OTP ที่ส่งมาทาง SMS หรือแอปพลิเคชัน ยืนยันตัวตนก่อนทำธุรกรรมทางการเงิน
5. รู้จักลักษณะของการหลอกลวงทางโทรศัพท์
การรู้จักลักษณะและวิธีการที่มิจฉาชีพใช้ในการหลอกลวงจะช่วยให้คุณสามารถระวังและป้องกันตัวเองได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น การอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือหน่วยงานรัฐบาลที่โทรมาเพื่อขอข้อมูลส่วนตัว
6. ใช้แอปพลิเคชันป้องกันการโจมตี
มีแอปพลิเคชันหลายตัวที่สามารถช่วยป้องกันการโจมตีทางโทรศัพท์ได้ เช่น แอปพลิเคชันที่สามารถตรวจสอบและบล็อกเบอร์มิจฉาชีพ หรือแอปพลิเคชันที่แจ้งเตือนเมื่อมีการโทรจากเบอร์ที่น่าสงสัย
7. ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้
หากคุณได้รับข้อมูลที่น่าสงสัยทางโทรศัพท์ ควรตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น โทรกลับไปยังธนาคารหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ได้รับการยืนยัน
8. รักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว
ควรเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวให้ปลอดภัย เช่น ไม่แชร์ข้อมูลส่วนตัวผ่านทางโซเชียลมีเดียหรืออินเทอร์เน็ต และใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงในการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล
9. การเรียนรู้และอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีใหม่ ๆ
การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคและวิธีการใหม่ ๆ ที่มิจฉาชีพใช้ในการโจมตีจะช่วยให้คุณสามารถป้องกันตัวเองได้ดีขึ้น ควรติดตามข่าวสารและบทความที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างสม่ำเสมอ
10. แจ้งเตือนและแชร์ข้อมูลกับคนใกล้ตัว
หากคุณได้รับการโจมตีหรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับการโจมตีทางโทรศัพท์ ควรแจ้งเตือนและแชร์ข้อมูลกับคนใกล้ตัวเพื่อให้พวกเขาระวังและป้องกันตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากครอบครัว
