More
    More
      HomeNewsReview บัตร SCB PLANET พร้อมวิธีการสมัครรับบัตรส่งถึงบ้านฟรีไม่มีเงื่อนไข

      Review บัตร SCB PLANET พร้อมวิธีการสมัครรับบัตรส่งถึงบ้านฟรีไม่มีเงื่อนไข

      วันก่อนผู้เขียนเห็นบัตร SCB PLANET VISA ผ่านหน้า Feed Facebook เลยเข้าไปติดตามหาข้อมูลซะหน่อย ซึ่งหลังจากดูแล้วก็ต้องบอกว่าเป็นบัตรเติมงาน (Prepaid Card) สำหรับใช้ในการแลกเงินสกุลเงินต่างประเทศเอาไว้ในบัตรเสมือนเราไปแลกเงินได้ที่เคาเตอร์แลกเงินตราต่างประเทศ โดยบัตรนั้นสามารถใช้ซื้อของหรือบริการได้เหมือนบัตรเครดิต และไม่ชาร์จ 2.5% เวลาใช้งานเหมือนบัตรเดบิตอีกด้วย เห็นมั้ยครับว่าบัตรรูปแบบนี้ธนาคารเค้าออกแบบมาสำหรับคนชอบท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือคนที่ไม่ต้องการพกเงินสดโดยเฉพาะเลยครับ

      เริ่มจากกรุงไทยออกบัตร Krungthai Tavel Card Visa และ UnionPay

      ย้อนก่อนหน้านี้มีบัตรประเภทเดียวกันนี้ออกมาพักใหญ่ ๆ แล้ว โดยเจ้าแรกที่ทำออกมานั่นก็คือธนาคารกรุงไทย (KTB) ในชื่อบัตร Krungthai Travel Card โดยเป็นบัตรประเภท Visa รองรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้ 10 สกุลเงิน (USD, GBP, EUR, HKD, JPY, AUD, SGD, NZD, CAD และ CHF) ผ่านแอพฯ Krungthai NEXT (ใช้รูดซื้อสินค้าได้ในต่างประเทศที่รองรับสกุลเงินทั้ง 10 เท่านั้นไม่สามารถใช้รูดสินค้าในไทยหรือกดเงินสดออกมาได้) หลังจากนั้นก็มีการอกบัตร Krungthai Travel Card ประเภท UnionPay (รุ่นนี้จะสามารถชำระเงินในร้านค้าต่าง ๆ ในประเทศไทยได้) โดยรองรับการแลกเปลี่ยนเพียงสกุลเงินหยวน (CNY) เท่านั้น

      TMB ออกบัตร TMB All Free

      หลังจากนั้นธนาคารทหารไทยก็ได้ออกบัตรประเภทเดียวกันนี้ออกมา โดยจุดเด่นของบัตรคือไม่เสียค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน 2.5% เหมือนการรูดบัตรเครดิต เพียงเลือกชำระเงินด้วยสกุลเงินของประเทศที่คุณเดินทางไป โดยรองรับการรูดซื้อสินค้าได้หลายสกุลเงินมากที่สุดในบรรดาบัตรอื่น ๆ โดยการใช้งานนั้นจะเป็นการผูกบัตรและตัดเงินในบัญชีธนาคารทหารไทย (ได้เรทอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันทำธุรกรรม ไม่ได้แลกเอาไว้ก่อนตามต้องการเหมือน Krungthai NEXT หรือ SCB PLANET) พูดง่าย ๆ ก็คือบัตรเดบิตนั่นแหละครับ เวลาเราจะรูดในต่างประเทศก็ต้องมีเงินในบัญชีเตรียมไว้สำรองให้พอจ่ายเสมอ แต่ข้อดีกว่าบัตรเครดิตคือไม่ต้องเสียค่าความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน 2.5% แต่ก็ต้องอดได้คะแนนสะสมหรือโปรโมชันจากบัตรเครดิต ซึ่งอันนี้ก็ต้องเลือกเอานะครับว่าอันไหนคุ้มกว่าเพราะได้อย่างเสียอย่าง

      credit travel

      SCB PLANET VISA

      บัตรใหม่ล่าสุดคือ SCB PLANET VISA ที่ออกโดยธนาคารไทยพาณิชย์ โดยบัตรนี้เป็นบัตรแบบเติมเงินแบบเดียวกับ Krungthai Travel Card (สามารถใช้เงินจากตู้ ATM ได้เท่ากับยอดเงินที่เติมเอาไว้แต่จะไม่ได้เป็นการตัดผ่านบัญชีโดยตรงนะครับ เราต้องใช้แอพ SCB Easy หรือสแกน QR Code จาก Mobile App แบงค์อื่น ๆ เพื่อเติมเงินก็ได้ โดยบัตรนี้จะรองรับการใช้จ่ายในประเทศไทยได้อีกด้วยโดยสามารถเติมเงินเข้าบัตรเอาไว้ถ้ายังไม่แลกเป็นสกุลเงินอื่นระบบก็จะตัดเงินจากบัตรตามปกติ (กรณีนี้ไม่ได้ตัดจากบัญชีที่ผูกกับบัตรเอาไว้นะครับ เราต้องโอนเงินเข้ามาในบัตรก่อน) ทั้งนี้เราสามารถชำระเงินจากร้านค้าหรือบริการออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะไทยหรือต่างประเทศก็ได้โดยหากเป็นสกุลเงินต่างประเทศก็จะไม่เสียค่าธรรมเนียมเรื่องของค่าความเสี่ยง 2.5%) โดยบัตร SCB PLANET ในปัจจุบันจะยังไม่รองรับการกดเงินจากตู้ ATM ในประเทศไทยเสมือนเป็นบัตร ATM ได้นะครับ แต่ใช้รูดซื้อสินค้าได้ตามปกติ  ทั้งนี้ในส่วนของสกุลเงินนั้นรองรับการแลกเปลี่ยนในตอนนี้ 14 สกุลเงิน ได้แก่ THB, USD, EUR, GBP, JPY, AUD, CHF, SGD, HKD, NZD, CAD, CNY, KRW และ TWD แลกเงินง่าย 24 ชั่วโมง ผ่าน SCB EASY App (ช่วงนี้สมัครได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 62 – 31 ธันวาคม 62) โดยบัตรสมัครได้ผ่านแอพ SCB Easy และจัดส่งให้ฟรีถึงบ้าน ซึ่งกระบวนการสมัครถือว่าง่ายกว่าทั้งของ TMB และ Krungthai

      เปรียบเทียบบัตร Krungthai Travel Card, SCB PLANET และ TMB All Free

      • สำหรับบัตรของทั้ง 3 ธนาคารนั้นมีการพิมพ์ชื่อ-นามสกุลของผู้ถือบัตรลงบนบัตรทั้งหมด (ของธนาคารกรุงไทยต้องไปรับบัตรและตั้งรหัส PIN ที่สาขา ถ้าลืมก็ต้องไปที่สาขาเช่นกัน ส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์หากมีบัญชีและแอพ SCB Easy อยู่แล้วก็กดสมัครผ่านแอพและรอบัตรมาส่งที่บ้านได้เลย)
      • บัตรแต่ละธนาคารจะมีโปรโมชันสมัครฟรี ทั้งแรกเข้าหรือค่าธรรมเนียมรายปี แต่อย่างกรณีของ TMB All Free นั้นจะเสียค่าแรกเข้า 500 บาท แต่ถ้าของ Krungthai UnionPay ก็เว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าแต่เสียค่าธรรมเนียมรายปี 350 บาทในปีถัดไป (เช็คโปรโมชันอีกครั้ง ณ วันที่ คุณผู้อ่านจะทำการสมัคร)
      • บัตรที่สามารถรูดซื้อสินค้าและกดเงินตู้ ATM ในประเทศไทยได้ด้วยมี 3 บัตรคือ Krungthai Travel Card UnionPay, TMB All Free และ SCB PLANET ส่วน Krungthai Travel Card Visa จะใช้รูดในต่างประเทศเท่านั้น

      รีวิวตัวอย่างขั้นตอนการสมัตรบัตร SCB PLANET ผ่านแอพ SCB Easy

      1. เมื่อเข้าแอพมาแล้วให้ไปที่เมนู “ธุรกรรมของฉัน”
      2. เลื่อนลงไปด้านล่างสุดแล้วกดไปที่เมนู “บัตรเดบิต PLANET SCB”
      3. เลือกเมนู “บัตรเติมเงิน”
      4. เลือกเมนู “สมัครบัตรเติมเงิน”
      5. เลือกเมนู “อ่านเอกสารเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์” จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ของหน้าจอ เช่น การอ่านเงื่อนไขข้อตกลง และก็รีวิวข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ จนไปหน้าสุดท้ายจะมีการยืนยันทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ก็รอรับบัตรส่งมาที่บ้านได้เลย

      วีดีโอวิธีสมัครง่าย ๆ ผ่าน SCB EASY App

      https://www.youtube.com/watch?v=I4CcCjqWA7A

      สรุปว่าทั้ง 4 บัตรนั้นจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่เนื่องจากว่าช่วงนี้ทางธนาคารก็แข่งขันกันแย่งชิงลูกค้า จึงได้เห็นโปรโมชันยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีออกมาเป็นช่วง ๆ อย่างล่าสุด SCB PLANET VISA ก็ฟรีทั้งหมด และให้ใช้งานได้ยาวถึง 3 ปี รองรับการแลกเงินได้ถึง 14 สกุลเงิน ดังนั้นผู้เขียนแนะนำว่าสมัครไว้และถือไว้หลายบัตรก็ไม่เสียหายอะไรครับ เพราะเวลาไปเที่ยวหรือทำงานที่ต่างประเทศเราควรมีบัตรสำรองทั้งบัตรเครดิตและบัตรแบบเติมเงิน และเงินสดในสกุลเงินของประเทศที่ไปเที่ยวเตรียมไว้สำรองเสมอจะดีที่สุดครับ

      รีวิวบัตรจริง

      ประมาณ 1 สัปดาห์กว่า ๆ ล่าสุดวันที่ 5 กันยายน 2562 ผู้เขียนได้รับบัตรตัวจริงแล้วครับ เป็นการจัดส่งมาที่อยู่ที่แจ้งไว้โดยไปรษณีย์ลงทะเบียนซองสีน้ำตาล อารมณ์บัตรเครดิตเลยครับ โดยจะมีเอกสารเงื่อนไขการใช้งานและโบรชัวร์ ส่วนหน้าตาจะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลยดีกว่าครับ

      ตัวบัตรจะเป็นแบบพิมพ์ชื่อ-นามสกุลของเราลงบนบัตรนะครับ การออกแบบสวยงามเป็นแนวตั้ง รองรับการจ่ายด้วย Visa payWave รูปลักษณ์ดูทันสมัยแปลกใหม่ดีครับ

      โปรโมชัน SCB PLANET 2019

      แหล่งข้อมูลอ้างอิง
      https://www.scb.co.th/th/personal-banking/cards/prepaid-cards/planet-scb-card.html
      https://www.scb.co.th/th/personal-banking/promotions/prepaid-card/planet-scb-card-interspend.html

      Bhubeth Bhajanavorakul
      ภูเบศ ภัทร์ชนาวรกุล | บรรณาธิการ : เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จุดมุ่งหมายของการสร้างพื้นที่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้ออกสู่สังคม เพราะในโลกของดิจิทัลเทคโนโลยีนั้นมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เราจำเป็นต้องเรียนรู้และนำมาปรับใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตนเอง คนรอบข้าง และสังคม

      LEAVE A REPLY

      Please enter your comment!
      Please enter your name here

      Exit mobile version